วันพุธที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

รัชกาลที่ 10


วัติรัที่ 10



พระราชสมภพ

         พระนามเต็ม รัชกาลที่ 10 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร พระนามเดิมของพระองค์ เดิมว่า สมเด็จ พระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณ บรมจักรยาดิศรสันตติวงศ เทเวศรธำรง สุบริบาล อภิคุณูประการมหิตลาดุลเดช ภูมิพลนเรศวรางกูร กิตติสิริสมบูรณ์สวางควัฒน์ บรมขัตติยราชกุมาร ซึ่งเป็นพระราชโอรสเพียงพระองค์เดียว ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระองค์ทรงพระราชสมภพ เมื่อวันจันทร์ที่ ๒๘ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๙๕ เมื่อเวลา ๑๗ นาฬิกา ๔๕ นาที ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต
                            ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ พระราชสมภพ ร.10
ด้านการศึกษา
         สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงได้รับการศึกษาระดับอนุบาลศึกษาที่พระที่นั่งอุดร พระราชวังดุสิต และทรงเข้ารับการศึกษาระดับประถมศึกษาและระดับมัธยมศึกษา โรงเรียนจิตรลดา ระหว่างพุทธศักราช ๒๔๙๙ –๒๕๐๕ ที่ประเทศอังกฤษระหว่างพุทธศักราช ๒๕๐๙ – ๒๕๑๓  หลังจากนั้นได้ทรงศึกษาระดับเตรียมทหารที่โรงเรียนคิงส์ นครซิดนี่ย์ ประเทศออสเตรเลีย แล้วเข้ารับการศึกษาระดับอุดมศึกษา ทรงได้รับปริญญาอักษรศาสตรบัณฑิต (การศึกษาด้านทหาร) คณะการศึกษาด้านทหาร จากมหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลล์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๙
                     ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ประวัติรัชกาลที่10
    นอกจากนี้ ยังทรงศึกษาที่โรงเรียนเสนาธิการทหารบกหลักสูตรประจำชุดที่ ๕-๖ ระหว่าง พ.ศ. ๒๕๒๐ ถึง ๒๕๒๑ และทรงได้รับปริญญานิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๐ ถึง พ.ศ.2533 ทรงเข้ารับการศึกษา ณ วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรแห่งสหราชอาณาจักรด้วย

ด้านการแพทย์ และการสาธารณสุข
         ในด้านการแพทย์และการสาธารณสุขนั้น ทรงตระหนักว่า สุขภาพพลานามัยอันดีของประชาชนเป็นปัจจัยสำคัญของการสร้างสรรค์ทรัพยากรบุคคลอันมีคุณภาพไว้เป็นพลังในการพัฒนาประเทศ จึงสนพระราชหฤทัยในการประกอบพระราชกรณียกิจด้านการแพทย์และสาธารณสุข เช่น เมื่อรัฐบาลได้น้อมเกล้าฯ ถวายโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช เนื่องในพระราชพิธีอภิเษกสมรสจำนวน 21 แห่ง ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ พระองค์ก็ได้ทรงพระอุตสาหะเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมโรงพยาบาลสม่ำเสมอ พระราชทานพระราชทรัพย์สนับสนุนให้มีอุปกรณ์การแพทย์ เครื่องมือเครื่องใช้ที่ทันสมัยเพื่อสามารถให้บริการที่ดีแก่ประชาชน และเมื่อ พ.ศ. 2537 ทรงรับเป็นประธานกรรมการอำนวยการจัดสร้างอาคารศูนย์โรคหัวใจ สมเด็จพระบรมราชินีนาถ

ด้านการต่างประเทศ
       การมีสัมพันธไมตรีอันดีกับมิตรประเทศ เป็นรากฐานสำคัญของความสงบสุขและความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ก็ได้ทรงพระวิริยอุตสาหะประกอบพระราชกรณียกิจสำคัญๆ ในการเจริญสัมพันธไมตรีกับประเทศต่างๆ เสมอมา ได้เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ไปทรงเยือนมิตรประเทศทั่วทุกทวีปอย่างเป็นทางการเป็นประจำทุกปีปีละหลายครั้ง เช่น เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยือนประเทศอิตาลี และทรงพบพระสันตะปาปา เมื่อวันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2525

ด้านการกีฬา
       ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ทั้งในฐานะผู้แทนพระองค์และในส่วนของพระองค์เองนานัปการ เช่น การพระราชทานไฟพระฤกษ์ กีฬาเยาวชนแห่งชาติ พระราชทานพระราชวโรกาสให้นักกีฬาไทยผู้นำความสำเร็จนำเกียรติยศมาสู่ประเทศชาติ เข้าเฝ้าทูลละอองพระบาทรับพระราชทานรางวัลนักกีฬายอดเยี่ยม รับพระราชทานพร และทรงแสดงความชื่นชมยินดี
                      ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ กีฬา ร.10
            ซึ่งนักกีฬาของไทยต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ มีความปลาบปลื้มในสิริมงคลและมีขวัญกำลังใจที่จะนำความสำเร็จและนำเกียรติยศมาสู่ตนเอง สู่วงศ์ตระกูล และประเทศชาติต่อไป 

ด้านการทหาร
        สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร สนพระราชหฤทัยในวิทยาการด้านการทหารมาตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ นอกจากทรงรับการศึกษาทางด้านการทหารจากประเทศออสเตรเลียแล้ว ยังทรงพระวิริยอุตสาหะในการเพิ่มพูนความรู้และพระประสบการณ์อยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะในด้านวิทยาการการบิน กล่าวคือ ระหว่างเดือนมกราคม ถึง ตุลาคม พ.ศ. 2519 ทรงเข้ารับการฝึกเพิ่มเติม และทรงศึกษางานทางการทหารในประเทศออสเตรเลีย โดยทุนกระทรวงกลาโหม ทรงประจำการ ณ กองปฏิบัติการทางอากาศพิเศษ ที่นครเพิร์ธ ประเทศออสเตรเลีย ทรงรับการฝึกอบรมหลักสูตรวิชาอาวุธพิเศษ การทำลายและยุทธวิธีรบนอกแบบ หลักสูตรต้นหนชั้นสูง หลักสูตรการลาดตระเวนและต้นหนชั้นสูง หลักสูตรส่งทางอากาศ
                      ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ทหาร ร.10
       ทั้งหมดทั้งสิ้นที่เราประชาชนคนไทยได้รับรู้มา ล้วนแต่เป็นแบบอย่างที่ดีในการนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน การทำความดีเพื่อประโยชน์ต่อสังคม และประเทศชาติ ให้ชาติไทยของเราได้พัฒนาไปในทางที่ดี พร้อมจะก้าวหน้าไปกับระบบเศรษฐกิจ และเทคโนโลยีความก้าวหน้าของประชาคมโลก โดยเราประชาชนคนไทยจะพระองค์ท่านจะเป็นแหล่งรวมจิตใจ ความสามัคคี และเป็นร่มโพธิ์ที่ร่มเย็น และสงบสันติให้แก่กับชาติ และบ้านเมืองสืบต่อไป 

                                     
แหล่งที่มา : http://news.mthai.com/webmaster-talk/525488.html
              : http://www.komchadluek.net/news/women/250659

วันพุธที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2560

ข้อสอบปฏิบัติ


     กชื่ต่รืข่ร้มี
สำคัต่สัติย่



ความหมาย

     ระบบเครือข่ายไร้สาย (WLAN = Wireless Local Area Network) คือ ระบบการสื่อสารข้อมูลที่มีรูปแบบในการสื่อสารแบบไม่ใช้สาย โดยใช้การส่งคลื่นความถี่วิทยุในย่านวิทยุ RF และ คลื่นอินฟราเรด ในการรับและส่งข้อมูลระหว่างคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่อง ผ่านอากาศทะลุกำแพงเพดานหรือสิ่งก่อสร้างอื่นๆ โดยปราศจากความต้องการของการเดินสาย นอกจากนั้นระบบเครือข่ายไร้สายก็ยังมีคุณสมบัติครอบคลุมทุกอย่างเหมือนกับระบบ LAN แบบใช้สาย

รูปแบบการเชื่อมต่อของระบบเครือข่ายไร้สาย 

 - Peer-to-peer ( ad hoc mode )

                             

         รูปแบบการเชื่อมต่อระบบแลนไร้สายแบบ Peer to Peer เป็นลักษณะ การเชื่อมต่อแบบโครงข่ายโดยตรงระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ จำนวน เครื่องหรือมากกว่านั้น เป็นการใช้งานร่วมกันของ wireless adapter cards โดยไม่ได้มีการเชื่อมต่อกับเครือข่ายแบบใช้สายเลย โดยที่เครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องจะมีความเท่าเทียมกัน 

 - Client/server (Infrastructure mode) 

                                    

       ระบบเครือข่ายไร้สายแบบ Client / server หรือ Infrastructure mode เป็นลักษณะการรับส่งข้อมูลโดยอาศัย Access Point (AP) หรือเรียกว่า “Hot spot” ทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมต่อระหว่างระบบเครือข่ายแบบใช้สายกับเครื่องคอมพิวเตอร์ลูกข่าย (client) โดยจะกระจายสัญญาณคลื่นวิทยุเพื่อ รับ-ส่งข้อมูลเป็นรัศมีโดยรอบ 

 - Multiple access points and roaming

                                  

            การเชื่อมต่อสัญญาณระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ กับ Access Point ของเครือข่ายไร้สายจะอยู่ในรัศมีประมาณ 500 ฟุต ภายในอาคาร และ 1000 ฟุต ภายนอกอาคาร หากสถานที่ที่ติดตั้งมีขนาดกว้าง มากๆ 

 - Use of an Extension Point

                                  

             โครงสร้างของสถานที่ติดตั้งเครือข่ายแบบไร้สายมีปัญหาผู้ออกแบบระบบอาจจะใช้ Extension Points ที่มีคุณสมบัติเหมือนกับ Access Point แต่ไม่ต้องผูกติดไว้กับเครือข่ายไร้สาย

  - The Use of Directional Antennas

                              

              ระบบแลนไร้สายแบบนี้เป็นแบบใช้เสาอากาศในการรับส่งสัญญาณระหว่างอาคารที่อยู่ห่างกัน โดยการติดตั้งเสาอากาศที่แต่ละอาคาร เพื่อส่งและรับสัญญาณระหว่างกัน


บทบาทและความสำคัญต่อสังคมและประเทศชาติ

ผลกระทบทางบวก

 - เพิ่มความสะดวกสบายในการสื่อสาร การบริการและการผลิต ชีวิตคนในสังคมได้รับความสะดวกสบาย เช่น การติดต่อผ่านธนาคารด้วยระบบธนาคารที่บ้าน (Home Banking) การทำงานที่บ้าน ติดต่อสื่อสารด้วยระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต การบันเทิงพักผ่อนด้วยระบบมัลติมีเดียที่บ้าน เป็นต้น
 - เป็นสังคมแห่งการสื่อสารเกิดสังคมโลกขึ้น โดยสามารถเอาชนะเรื่องระยะทาง เวลา และสถานที่ได้ ด้วยความเร็วในการติดต่อสื่อสารที่เป็นเครือข่ายความเร็วสูง และที่เป็นเครือข่ายแบบไร้สายทำให้มนุษย์แต่ละคนในสังคมสามารถติดต่อถึงกันอย่างรวดเร็ว
 - มีระบบผู้เชี่ยวชาญต่างๆ ในฐานข้อมูลความรู้ เกิดการพัฒนาคุณภาพชีวิตในด้านที่เกี่ยวกับสุขภาพและการแพทย์ แพทย์ที่อยู่ในชนบทก็สามารถวินิจฉัยโรคจากฐานข้อมูลความรู้ของผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางการแพทย์ในสถาบันการแพทย์ที่มีชื่อเสียงได้ทั่วโลกหรือใช้วิธีปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในระบบทางไกลได้ด้วย
 - เทคโนโลยีสารสนเทศสร้างโอกาสให้คนพิการ หรือผู้ด้อยโอกาสจากการพิการทางร่างกาย เกิดการสร้างผลิตภัณฑ์ช่วยเหลือคนพิการให้สามารถพัฒนาทักษะและความรู้ได้ เพื่อให้คนพิการเหล่านั้นสามารถช่วยเหลือตนเองได้ ผู้พิการจึงไม่ถูกทอดทิ้งให้เป็นภาวะของสังคม
 - พัฒนาคุณภาพการศึกษา โดยเกิดการศึกษาในรูปแบบใหม่ กระตุ้นความสนใจแก่ผู้เรียน โดยใช้คอมพิวเตอร์เป็นสื่อในการสอน

ผลกระทบทางลบ
 
 - ก่อให้เกิดความเครียดขึ้นในสังคม เนื่องจากมนุษย์ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง เคยทำอะไรอยู่ก็มักจะชอบทำอย่างนั้นไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง แต่เทคโนโลยีสารสนเทศเข้าไปเปลี่ยนแปลงโครงสร้างองค์กร 
 - ก่อให้เกิดการรับวัฒนธรรม หรือแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมของคนในสังคมโลก การแพร่ของวัฒนธรรมจากสังคมหนึ่งไปสู่งสังคมอีกสังคมหนึ่งเป็นการสร้างค่านิยมใหม่ให้กับสังคมที่รับวัฒนธรรมนั้น
ของสังคมนั้นๆ
 - ก่อให้เกิดผลด้านศิลธรรม การติดต่อสื่อสารที่รวดเร็วในระบบเครือข่ายก่อให้เกิดโลกไร้พรมแดน แต่เมื่อพิจารณาศิลธรรมของแต่ละประเทศ พบว่ามีความแตกต่างกัน ประเทศต่างๆผู้คนอยู่ร่วมกันได้ด้วยจารีตประเพณี
 - การมีส่วนร่มของคนในสังคมลดน้อยลง การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ทำให้เกิดความสะดวก รวดเร็วในการสื่อสาร และการทำงาน 
 - การละเมิดสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างไม่มีขีดจำกัดย่อมส่งผลต่อการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล การนำเอาข้อมูลบางอย่างที่เกี่ยวกับบุคคลออกเผยแพร่ต่อสาธารณะ

สรุป 
       การสื่อสารข้อมูล เป็นกระบวนการหรือวิธีถ่ายทอดข้อมูลระหว่างผู้ใช้กับคอมพิเตอร์ ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยระบบการสื่อสารโทรคมนาคมเป็นสื่อกลางในการส่งข้อมูล เพื่อให้สามารถสื่อสารและแลกเปลี่ยนข้อมูล รวมทั้งสามารถใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ภายในเครือข่ายร่วมกันได้ เช่น ฮาร์ดดิสก์ เครื่องพิมพ์ เป็นต้น จึงเรียกกลุ่มของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมโยงกันว่าเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีองค์ประกอบที่สำคัญ ได้แก่ ข่าวสาร ผู้ส่ง ผู้รับ สื่อกลาง โพรโตคอล และซอฟแวร์ โดยมีสื่อกลางทางกายภาพและสื่อกลางไร้สาย ทำหน้าที่ประสานถ่ายโอนข้อมูลในการเชื่อมต่อเครือข่ายคอมพิวเตอร์ระหว่างกัน เพื่อให้ผู้ใช้สามารถนำข้อมูลไปใช้งานได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ

ความคิดเห็น
    ปัจจุบันการใช้งานคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์ในการคำนวณและเก็บข้อมูล รวมถึงการสื่อสารข้อมูลการแลกเปลี่ยนข้อมูล ข่าวสารระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ เช่น ระบบสำนักงานที่เรียกว่า ระบบสำนักงานอัตโนมัติ(office automation) ระบบดังกล่าวนี้มักเรียกย่อกันสั้น ๆ ว่า โอเอ(OA) เป็นระบบที่ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ประยุกต์ืและระบบเครือข่าย มาช่วยในการทำงานที่เกี่ยวกับเอกสาร  การโอนย้ายแลกเปลี่ยนไฟล์ การควบคุมเอกสารและส่งเอกสารไปยังหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องและการส่งไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ ผู้ใช้งานอาจอยู่ภายในอาคารเดียวกันหรือยุ่คนละเมืองก็ได้ การส่งข้อมุลข่าวสารเช่นนี้ต้องอาศัยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หลายประเภทที่สามารถเชื่อมต่อและทำงานร่วมกัน โดยผ่านสื่อกลางในการส่งผ่านข้อมูล 


แหล่งที่มา : http://www.dol.go.th/it/index.php?option=com_content&task=view&id=115
                             http://botanikajr.blogspot.com/2008/03/blog-post.html

วันพุธที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2559

Chair idea

ก้อี้น้ำอั

           ในปัจจุบันมีวัสดุมากมายที่เหลือจากสิ่งที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ ก่อให้เกิดเป็นมลพิษ และขยะ เราจึงคิดค้นหาวิธีการประยุกต์ โดยการคิดประดิษฐ์การทำเก้าอี้ด้วยขวดน้ำในชื่อสิ่งประดิษฐ์ว่า Chair idea ที่นำมาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้จริง โดยมีขั้นตอน และวิธีการทำดังต่อไปนี้                               


                                                Related image
   
    
    วัสดุ และอุปกรณ์ที่ใช้

 1.ขวดน้ำอัดลมจำนวน 19 ขวด
 2.กรรไกร เข็ม และด้าย
 3.ผ้าที่ไว้ใช้สำหรับบุ (โพลีเอสเตอร์อัดแผ่น)
 4.ผ้าที่มีลวดลายที่ต้องการ

    
    ขั้นตอน และวิธีการทำ
 
1.นำขวดน้ำมาล้างให้สะอาด และนำมาเรียงต่อกันให้มีลักษณะเป็น 3 ชั้น แล้วนำไปพันด้วยสก็อตเทป   

                                         

 
2.นำกระดาษลังมาตัดให้มีขนาดพอดีกับด้านบน และล่างของขวดน้ำ
                            
                                         
  

 3.บุด้านล่าง และด้านบนด้วยใยโพลีเอสเตอร์

                                            


 4.นำไปหุ้มด้วยผ้าที่ลวดลายตามที่ต้องการ และเย็บติดกันให้เรียบร้อย

                                           

    เพียงเท่านี้ขยะที่ไม่มีประโยชน์ที่เราไม่ได้ใช้ ก็กลายมาเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่มีประโยชน์ และสามารถนำมาใช้ได้จริงภายในชีวิตประจำวันของเรา



แหล่งที่มา ; http://pantip.com/topic/31158324






วันพุธที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2559

แนวทางมอเตอร์ไซค์จิ๊กโก๋ยุค1960

      
                             Café Racer (คาเฟ่ เรสเซอร์) 

       Café Racer (คาเฟ่ เรสเซอร์) กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบันเป็นอย่างมากสำหรับผู้ที่หลงไหลการตกแต่งมอเตอร์ไซค์ ด้วยกระแสวินเทจ ย้อยยุคที่ยังคงแรงต่อเนื่อง ส่งผลให้กระแสการแต่งมอเตอร์ไซค์ในแบบ Café Racer มีความโดดเด่นทุกครั้งที่ได้พบเจอ เรามาทำความรู้จักแนวทางของ มอเตอร์ไซค์จิ๊กโก๋ยุค1960 กัน
           
                        Image result for รถคาเฟ่

      โดยต้นกำเนิดจริงๆของกระแส Café Racer เริ่มต้นขึ้นในยุค 1960 ที่วัยรุ่นประเทศอังกฤษกับลังคลั่งกับอิทธิพลของเพลงร็อกต่างๆ เช่น วงThe Door, The Rolling Stones, The Beach Boys ซึ่งประเทศไทยก็ได้รับกระแสนั้นมาเหมือนกันนั่นก็คือยุคโก๋หลังวังนั่นเอง

                     Image result for James Dean             Image result for cafe racer สมัยก่อน

     Cafe Racer หรือชื่อเดิมว่า Kaf Racer คือชื่อเรียกการตกแต่งมอเตอร์ไซค์สำหรับประลองความเร็วบนท้องถนนในยุค 60s ตัวผู้ขับขี่เองก็มีการผสมผสานระหว่างนักแข่ง,แฟชั่น และเพลงร็อก พร้อมเรียกตัวเองว่าRockers หรือไม่ก็ Greasers ซึ่งจัดได้เลยว่าเท่ห์สุดๆ สถานที่ที่เหล่าร็อกเกอร์จะมารวมตัวกันนั่นก็คือตาม คาเฟ่ ต่างๆพร้อมเล่นเกมส์สุดมันที่เรียกว่า The ton ที่จะหยอดเหรียญเลือกเพลงร็อกที่ตัวเองชอบแล้วไปประลองความเร็วในเส้นทางที่กำหนดแล้วมาดูกันว่าใครจะกลับมาถึงคาเฟ่ก่อนที่เพลงจบ หรืออาจเพิ่มเดิมพันว่าจะมาถึงท่อนไหนของเพลงเลยก็ได้ นอกจากนี้บางคู่ที่ใช้เส้นชัยเป็นร้าน Cafe

                           Related image
     
    ในช่วงค.ศ.1960 มอเตอร์ไซค์สไตล์คาเฟ่ เรสเซอร์ จะเป็นมอเตอร์ไซค์จาก อังกฤษ เยอรมัน อิตาลี และอเมริกา ส่วนรถจากประเทศญี่ปุ่นก็เริ่มมาทำตลาดในปีค.ศ. 1970 รถจากแต่ก็ไม่ได้รับความนิยมเท่าไหร่นัก ต่อมาในปีค.ศ. 1978 กระแสของ Cafe Racer ก็เริ่มลดลงจบเงียบหายไป สำหรับในปัจจุบันที่กระแส Vintageกลับมานิยม ส่งผลให้ คาเฟ่ เรสเซอร์ ก็กลับมาโด่งดังอีกครั้ง
   
   มอเตอร์ไซค์ในแบบ Cafe Racer การตกแต่งตัวรถก็จะเป็นเรื่องของความชอบในแต่ละคนแต่พื้นฐานหลักของการแต่งมอเตอร์คาเฟ่ ก็จะเหมือนกันก็คือ
  - เปลี่ยนมาใช้แฮนด์จับโช๊ค หรือ แฮนด์ค้างคาว (Cr.K.speed)

                                    Related image

   - ใช้ไฟหน้าแบบหัวกระสุน จะเล็กหรือใหญ่ก็ตามความชอบ
                             
                                    Related image

 - ใส่พักเท้า เกียร์โยงปรับท่านั่ง

                                    Image result for รถคาเฟ่

 - ถอดของที่ต้านลมในรถทิ้ง พร้อมโหลดรถลงเพื่อให้ตัวรถนิ่งมากขึ้น

                                     Image result for รถคาเฟ่
  
- ใช้ถังน้ำมันที่เว้าหลบเข่า หรืออาจจะตีถังขึ้นมาใหม่เลยก็ได้
                                   
                                     Image result for ตีถังรถคาเฟ่
        
        ซึ่งในปัจจุบันค่ายมอเตอร์ไซค์ สำนักแต่งมอเตอร์ไซค์มากมายทั้งไทยและต่างประเทศก็ได้ผลิตและตกแต่งรถ Cafe Racer ออกมาให้เราได้ชมกันอยู่ตลอด มอเตอร์ไซค์คาเฟ่ มีความเป็นเอกลักษณ์ด้วยแฮนด์บาร์ที่ต่ำบวกท่าขี่หมอบที่ดูสปอร์ตภายใ

                                     

แหล่งที่มา : http://bigbike.boxzaracing.com/knowledge/3547




วันพุธที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

การสื่อสารข้อมูลสำหรับเครือข่ายคอมพิวเตอร์

       การสื่อสารข้อมูลสำหรับเครือข่ายคอมพิวเตอร์

1.ความรู้เบื้องต้นของการสื่อสารข้อมูลสำหรับเครือข่ายคอมพิวเตอร์  

       นับเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า อย่างเช่นในสำนักงานหนึ่งมีเครื่องอยู่ 30 เครื่อง หรือมากกว่านี้ ถ้าไม่มีการนำระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์มาใช้ จะเห็นว่าต้องใช้เครื่องพิมพ์อย่างน้อย 5 - 10 เครื่อง มาใช้งาน แต่ถ้ามีระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์มาใช้แล้วละก้อ ก็สามารถใช้อุปกรณ์ หรือเครื่องพิมพ์ประมาณ 2-3 เครื่อง ก็พอต่อการใช้งานแล้ว เพราะว่าทุกเครื่องสามารถเข้าใช้เครื่องพิมพ์เครื่องใดก็ได้ ผ่านเครื่องอื่น ๆ ที่ในระบบเครือข่ายเดียวกัน                 การสื่อสารข้อมูลเป็นการถ่ายทอดความรู้ ความคิด ความรู้สึกจากคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่งโดยอาศัยสื่อหรือเครื่องมือต่างๆเป็น ช่องทางในการสื่อสาร เช่น การสื่อสารด้วย ท่าทาง ถ้อยคำ สัญลักษณ์ ภาพวาด จดหมาย โทรเลข เป็นต้น ต่อมาการสื่อสารข้อมูลได้พัฒนาและก้าวหน้าไปอย่างต่อเนื่อง มีการนำเทคโนโลยีด้านเครือข่ายคอมพิวเตอร์มาประยุกต์ใช้ในการติดต่อสื่อสาร ทำให้การติดต่อสื่อสารเกิดความสะดวก รวดเร็ว รวมทั้งได้รับข่าวสารทันเหตุการณ์อีกด้วย

      1.1 ความหมายของการสื่อสารข้อมูลและเครือข่ายคอมพิวเตอร์

                การสื่อสาร (communication) หมายถึง กระบวนการถ่ายทอดหรือแลกเปลี่ยนสารหรือสื่อระหว่างผู้ส่งกับผู้รับ โดยส่งผ่านช่องทางนำสารหรือสื่อ เพื่อให้เกิดความเข้าใจซึ่งกันและกัน
                การสื่อสารข้อมูล (datacommunication) หมายถึง กระบวนการหรือวิธีถ่ายทอดข้อมูลระหว่างผู้ใช้กับคอมพิวเตอร์ที่มักจะอยู่ห่างไกลกัน และจำเป็นต้องอาศัยระบบการสื่อสารโทรคมนาคม (telecommunication) เป็นสื่อกลางในการรับส่งข้อมูล
                เครือข่ายคอมพิวเตอร์ (computer networkหมายถึง การเชื่อมโยงระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งแต่ 2 เครื่องขึ้นไป เพื่อให้สามารถสื่อสารและแลกเปลี่ยนข้อมูล รวมทั้งสามารถใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ภายในเครือข่ายร่วมกันได้ เช่น ฮาร์ดดิสก์ เครื่องพิมพ์ เป็นต้น



        1.2 องค์ประกอบของระบบสื่อสารข้อมูล
การสื่อสารข้อมูลในเครือข่ายคอมพิวเตอร์ มีองค์ประกอบ ดังนี้




     1. ข่าวสาร (message) ในทางเทคโนโลยีและการสื่อสาร ข่าวสารเป็นข้อมูลที่ผู้ส่งทำการส่งไปยังผู้รับผ่านระบบการสื่อสาร ซึ่งอาจอยู่ในรูปแบบ ดังต่อไปนี้
     2. ผู้ส่ง (sender) เป็น อุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ส่งข้อมูลที่อยู่ต้นทาง โดยข้อมูลต้องถูกจัดเตรียมนำเข้าสู่อุปกรณ์ส่งข้อมูล เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ โมเด็ม (modem) จานไมโครเวฟ จานดาวเทียม เป็นต้น
     3.ผู้รับ (receiverเป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่รับข้อมูลจากอุปกรณ์ส่งข้อมูล เช่น เครื่องพิมพ์ คอมพิวเตอร์ โมเด็ม จานดาวเทียม เป็นต้น เพื่อนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ต่อไป
     4. สื่อกลางหรือตัวกลาง (media) เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่นำข่าวสารรูปแบบต่างๆจากผู้ส่งไปยังผู้รับ ได้แก่สายไฟ ขดลวด สายเคเบิล สายไฟเบอร์ออฟติก เป็นต้น สื่อกลางอาจจะอยู่ในรูปของคลื่นที่ส่งผ่านทางอากาศ เช่น คลื่นไมโครเวฟ คลื่นดาวเทียม คลื่นวิทยุ เป็นต้น
     5. โพรโตคอล (protocol) เป็นตัวกำหนดคุณลักษณะ กฎระเบียบ หรือวิธีการที่ใช้ในการสื่อสาร เพื่อให้ผู้รับและผู้ส่งเข้าใจกัน และสามารถสื่อสารกันได้อย่างถูกต้อง
     6. ซอฟต์แวร์ (software) เป็นโปรแกรมสำหรับดำเนินการและควบคุมการส่งข้อมูลผ่านคอมพิวเตอร์เพื่อให้ได้ข้อมูลตามที่กำหนดไว้ ตัวอย่างซอฟต์แวร์ เช่น Microsoft Windows XP/Vista/7, Unix , Internet Explorer , Windows Live Message เป็นต้น

 
2.การสื่อสารข้อมูล
          ในปัจจุบันการสื่อสารข้อมูล มีบทบาทและความสำคัญที่ได้พัฒนาเผยแพร่ข้อมูลไปยังผู้ใช้งานโดยส่งผ่านสื่อ กลางต่างๆ ซึ่งสื่อกลางแต่ละแบบ ก็จะมีคุณสมบัติแตกต่างกันออกไป
         2.1 สื่อกลางการสื่อสารข้อมูล              
              
การสื่อสารข้อมูลในเครือข่ายคอมพิวเตอร์ จะมีสื่อกลางสำหรับเชื่อมโยงสถานีหรือเครื่องคอมพิวเตอร์ต่างๆเข้าด้วยกัน เพื่อเป็นตัวกลางให้ผู้ส่งข้อมูล ทำการส่งข้อมูลไปยังผู้รับได้ สื่อกลางการสื่อสารข้อมูล
แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ดังต่อไปนี้
      1) การสื่อสารทางกายภาพ (physical media) เป็นการเชื่อมโยงสถานีระหว่างผู้รับและผู้ส่งข้อมูลโดยอาศัยสายสัญญาณเป็นสื่อกลางในระบบสื่อสารข้อมูล ตัวอย่างสายสัญญาณมีดังนี้
             1.1 สายตีเกลียวคู่ (twisted pair cable หรือ TP) ประกอบ ด้วยลวดทองแดงที่หุ้มด้วยฉนวนพลาสติกจำนวน 4 คู่ แต่ละคู่พันเป็นเกลียว ซึ่ง 2 คู่จะใช้สำหรับช่องทางการสื่อสาร 1 ช่องทาง สายตีเกลียวคู่เป็นตัวกลางที่เป็นมาตรฐานใช้ส่งสัญญาณเสียงและข้อมูลได้ใน ระยะเวลานาน สายสัญญาณประเภทนี้นิยมใช้เป็นสายโทรศัพท์ (telephone line) เพื่อส่งสัญญาณโทรศัพท์
             
               1.2 สายโคแอกเชียล (coaxial cable) ประกอบ ด้วยสายทองแดงเพียงเส้นเดียวเป็นแกนกลาง หุ้มด้วยฉนวนพลาสติก สามารถส่งข้อมูลได้มากกว่าสายตีเกลียวคู่ประมาณ  80 เท่า ส่วนใหญ่จะใช้ในการส่งสัญญาณโทรทัศน์
            
              1.3 สายใยแก้วนำแสง (fiberotic cable) ประกอบ ด้วยเส้นใยแก้วขนาดเล็กซึ่งหุ้มด้วยฉนวนหลายชั้นโดยกรส่งข้อมูลใช้หลักการ สะท้อนของแสงผ่านหลอดแก้วขนาดเล็ก ทำให้สามารถส่งผ่านข้อมูลได้เร็วถึง 26,000 เท่าของสายตีเกลียวคู่ มีน้ำหนักเบาและมีความน่าเชื่อถือในการส่งข้อมูลมากกว่าสายโคแอกเชียล อีกทั้งการส่งข้อมูลยังใช้ลำแสงที่มีความเร็วเทียบเท่ากับความเร็วของแสง ทำให้สามารถส่งข้อมูลได้จำนวนมากเป็นระยะทางไกลด้วยความเร็วสูง


      2) สื่อกลางไร้สาย (wireless media) เป็นการเชื่อมต่อที่ไม่ต้องใช้สายสัญญาณเป็นสื่อกลางในการสื่อสารระหว่างผู้รับ และผู้ส่งข้อมูลแต่จะใช้อากาศเป็นสื่อกลาง ตัวอย่างสื่อกลางไร้สาย




แหล่งที่มา : http://kruthomtn.hsw.ac.th/index.htm

วันพุธที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

ในหลวงในดวงใจตามโครงการพระราชดำริ



                           โ

                โครงการฝนหลวง คือ โครงการที่เกิดขึ้นจากพระราชดำริส่วนพระองค์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีจุดประสงค์เพื่อสร้างฝนเทียมสำหรับบรรเทาความแห้งแล้งให้แก่เกษตรกร
              เมื่อคราวที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมพสกนิกร เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๘ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้ทรงรับทราบถึงความเดือดร้อน ทุกข์ยากของราษฎร และเกษตรกรที่ขาด แคลนน้ำ อุปโภค บริโภค และการเกษตร จึงได้มีพระมหากรุณาธิคุณ พระราชทาน โครงการพระราชดำริ " ฝนหลวง " ให้กับ ม.ร.ว. เทพฤทธิ์ เทวกุล ไปดำเนินการ ซึ่งต่อมา ได้เกิดเป็นโครงการค้นคว้าทดลอง ปฏิบัติการฝนเทียมหรือฝนหลวงขึ้น ในสังกัด สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เมื่อปี ๒๕๑๒ ด้วยความสำเร็จของ โครงการ จึงได้ตราพระราชกฤษฎีกา ก่อตั้งสำนักงานปฏิบัติการฝนหลวง ขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๑๘ ในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อเป็นหน่วยงานรองรับโครงการพระราชดำริฝนหลวง


Image result for ฝนหลวง

วิธีการทำฝนหลวง

ขั้นตอนที่หนึ่ง : "ก่อกวน" จะมุ่งใช้สารเคมีไปกระตุ้น ให้มวลอากาศเกิดการลอยตัวขึ้นสู่ เบื้องบน เพื่อให้เกิดกระบวนการชักนำไอน้ำ หรือ ความชื้นเข้าสู่ระบบการเกิดเมฆ

ขั้นตอนที่สอง : "เลี้ยงให้อ้วน"เป็นขั้นตอนที่เมฆกำลัง ก่อตัวเจริญเติบโตซึ่งเป็นระยะสำคัญมาก ในการปฏิบัติการฝนหลวง เพราะจะต้องไป เพิ่มพลังงานให้แก่ updraft ให้ยาวนานออกไป ต้องใช้เทคโนโลยีและประสบการณ์หรือศิลปะแห่ง การทำฝนควบคู่ไปพร้อมๆกัน 

ขั้นตอนที่สาม : "โจมตี"เป็นขั้นตอนสุดท้ายของกรรมวิธีปฏิบัติการฝนหลวง เมฆ หรือ กลุ่มเมฆฝนมีความหนาแน่นมากพอที่จะสามารถตกเป็นฝนได้ 

Related image

ประโยชน์โครงการฝนหลวง
      
         เป็นโครงการที่ช่วยแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน มีประโยชน์ในเรื่องการแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำในการเกษตรในช่วงที่เกิดภาวะฝนแล้งหรือฝนทิ้งช่วงยาวนานเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำ ให้กับพื้นที่ลุ่มรับน้ำของแม่น้ำสายต่างๆ และยังเป็นการป้องกันและบำบัดภาวะมลพิษของสิ่งแวดล้อม “ฝนหลวง” ได้บรรเทาภาวะแวดล้อมเป็นพิษอันเกิดจากการระบายน้ำเสียและขยะมูลฝอยลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาปริมาณน้ำจากฝนหลวงจะทำให้ภาวะมลพิษจากน้ำเสียเจือจางลง และยังช่วยเพิ่มปริมาณน้ำในเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าให้สามารถมีใช้ในปัจจุบัน


                                        


แหล่งที่มา : http://dit.dru.ac.th/ka/a31.php