Café Racer (คาเฟ่ เรสเซอร์)
Café Racer (คาเฟ่ เรสเซอร์) กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบันเป็นอย่างมากสำหรับผู้ที่หลงไหลการตกแต่งมอเตอร์ไซค์ ด้วยกระแสวินเทจ ย้อยยุคที่ยังคงแรงต่อเนื่อง ส่งผลให้กระแสการแต่งมอเตอร์ไซค์ในแบบ Café Racer มีความโดดเด่นทุกครั้งที่ได้พบเจอ เรามาทำความรู้จักแนวทางของ มอเตอร์ไซค์จิ๊กโก๋ยุค1960 กัน
โดยต้นกำเนิดจริงๆของกระแส Café Racer เริ่มต้นขึ้นในยุค 1960 ที่วัยรุ่นประเทศอังกฤษกับลังคลั่งกับอิทธิพลของเพลงร็อกต่างๆ เช่น วงThe Door, The Rolling Stones, The Beach Boys ซึ่งประเทศไทยก็ได้รับกระแสนั้นมาเหมือนกันนั่นก็คือยุคโก๋หลังวังนั่นเอง
Cafe Racer หรือชื่อเดิมว่า Kaf Racer คือชื่อเรียกการตกแต่งมอเตอร์ไซค์สำหรับประลองความเร็วบนท้องถนนในยุค 60s ตัวผู้ขับขี่เองก็มีการผสมผสานระหว่างนักแข่ง,แฟชั่น และเพลงร็อก พร้อมเรียกตัวเองว่าRockers หรือไม่ก็ Greasers ซึ่งจัดได้เลยว่าเท่ห์สุดๆ สถานที่ที่เหล่าร็อกเกอร์จะมารวมตัวกันนั่นก็คือตาม คาเฟ่ ต่างๆพร้อมเล่นเกมส์สุดมันที่เรียกว่า The ton ที่จะหยอดเหรียญเลือกเพลงร็อกที่ตัวเองชอบแล้วไปประลองความเร็วในเส้นทางที่กำหนดแล้วมาดูกันว่าใครจะกลับมาถึงคาเฟ่ก่อนที่เพลงจบ หรืออาจเพิ่มเดิมพันว่าจะมาถึงท่อนไหนของเพลงเลยก็ได้ นอกจากนี้บางคู่ที่ใช้เส้นชัยเป็นร้าน Cafe
ในช่วงค.ศ.1960 มอเตอร์ไซค์สไตล์คาเฟ่ เรสเซอร์ จะเป็นมอเตอร์ไซค์จาก อังกฤษ เยอรมัน อิตาลี และอเมริกา ส่วนรถจากประเทศญี่ปุ่นก็เริ่มมาทำตลาดในปีค.ศ. 1970 รถจากแต่ก็ไม่ได้รับความนิยมเท่าไหร่นัก ต่อมาในปีค.ศ. 1978 กระแสของ Cafe Racer ก็เริ่มลดลงจบเงียบหายไป สำหรับในปัจจุบันที่กระแส Vintageกลับมานิยม ส่งผลให้ คาเฟ่ เรสเซอร์ ก็กลับมาโด่งดังอีกครั้ง
มอเตอร์ไซค์ในแบบ Cafe Racer การตกแต่งตัวรถก็จะเป็นเรื่องของความชอบในแต่ละคนแต่พื้นฐานหลักของการแต่งมอเตอร์คาเฟ่ ก็จะเหมือนกันก็คือ
- เปลี่ยนมาใช้แฮนด์จับโช๊ค หรือ แฮนด์ค้างคาว (Cr.K.speed)
- ใช้ไฟหน้าแบบหัวกระสุน จะเล็กหรือใหญ่ก็ตามความชอบ
- ใส่พักเท้า เกียร์โยงปรับท่านั่ง
- ถอดของที่ต้านลมในรถทิ้ง พร้อมโหลดรถลงเพื่อให้ตัวรถนิ่งมากขึ้น
- ใช้ถังน้ำมันที่เว้าหลบเข่า หรืออาจจะตีถังขึ้นมาใหม่เลยก็ได้
ซึ่งในปัจจุบันค่ายมอเตอร์ไซค์ สำนักแต่งมอเตอร์ไซค์มากมายทั้งไทยและต่างประเทศก็ได้ผลิตและตกแต่งรถ Cafe Racer ออกมาให้เราได้ชมกันอยู่ตลอด มอเตอร์ไซค์คาเฟ่ มีความเป็นเอกลักษณ์ด้วยแฮนด์บาร์ที่ต่ำบวกท่าขี่หมอบที่ดูสปอร์ตภายใ
แหล่งที่มา : http://bigbike.boxzaracing.com/knowledge/3547
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น